วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2551

ภัยจากเกมส์อินเทอร์เน็ต


ต้องยอมรับว่าปัจจุบันเมื่อเทคโนโลยีได้เข้ามามีส่วนสำคัญในการดำเนินชีวิตและมีบทบาทต่อการประกอบกิจกรรมต่างๆมากมายทำให้เกิดความสะดวกสบายไม่เพียงเท่านั้นยังเป็นเครื่องมือในการสร้างความบันเทิง และผ่อนคลายอารมณ์ให้กับเวลาที่ต้องการผ่อนคลายหรือว่างเว้นจากเวลาที่เคร่งเครียดเทคโนโลยีถือได้ว่าสามารถช่วยเหลือและแก้ไขได้มากเลยทีเดียว แต่เป็นธรรมดากับคำกล่าวที่ว่าอะไรที่มันมากจนเกินไปก็ไม่ก่อให้เกิดผลดีเสียทีเดียวในที่นี้ ขอยกตัวอย่างเครื่องมือผ่อนคลายความเครียดอย่างหนึ่งที่ปัจจุบันถือได้ว่ามีบทบาทอย่างมากกับบุคคลแทบทุกวัยเจ้าสิ่งผ่อนคลายความเครียดที่ว่านี้คือเกมส์ เกมส์มีอยู่หลายรูปแบบจากเดิมคนเรารู้จักเกมส์ในรูปแบบของกิจกรรมต่างที่สรรสร้างขึ้นเพื่อก่อให้เกิดความบันเทิงเริงใจ ทั้งในรูปแบบของเกมส์ที่มีการเคลื่อนไหวร่างกายรวมไปถึงเกมส์คอมพิวเตอร์ที่กำลังเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นด้วย ปัจจุบันเราไม่สามารถกล่าวได้แล้วว่าเกมส์คอมพิวเตอร์เป็นที่นิยมเพียงแต่ในกลุ่มของวัยรุ่นเท่านั้นเพราะจากการสังเกตจากแหล่งบันเทิงต่างๆในที่นี้หมายถึงร้านเกมส์ที่มีจำนวนมากและมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กลับกลาย เป็นแหล่งนัดพบแหล่งใหม่ของเด็กตัวเล็กๆที่มีอายุประมาณ5ปีขึ้นไป ทุกๆวัน เสาร์ อาทิตย์ หรือ วันที่ไม่มีการเรียนการสอนแตกต่างจากเด็กสมัยก่อนที่เมื่อมีเวลาว่างก็จะนัดพบกันเล่นวิ่งไล่จับบ้าง ซ่อนหาบ้าง แต่กิจกรรมดังกล่าวนั้นได้ลดน้อยลงมาก กลับกลายเป็นการนัดพบกันที่ร้านเกมส์ต่างๆ ซึ่งเราก็ไม่สามารถโทษเด็กได้เลยว่าเป็นความผิดของเขาเหล่านั้นเพราะไม่ว่าจะไปที่ไหนเราก็สามารถหาร้านเกมส์ที่มีจำนวนมากเหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย ถือได้ว่าเป็นการปลูกฝังรูปแบบวิถีชีวิตในรูปแบบใหม่ให้กับชีวิตมนุษย์ตั้งแต่วัยเด็กปลูกฝังความรุนแรงและความเพ้อฝันที่ก่อตัวขึ้นได้ง่ายๆเพราะเด็กเป็นเสมือนผ้าขาวที่เราสามารถแต่งแต้มอะไรต่ออะไรเข้าไปได้อย่างง่ายดาย เช่นเดียวกับการที่เด็กได้มีโอกาสรู้จักกับเกมส์รูปแบบต่างๆที่มีเนื้อหาที่หลากหลาย ทั้งเกมส์ที่มีเนื้อหารุนแรงต่อสู้ฆ่าฟันกัน ความรุนแรงเหล่านั้นก่อเป็นจุดเริ่มต้นให้เด็กมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าว ชอบการเอาชนะและการใช้ความรุนแรง นอกจากนี้ยังมีเกมส์ประเภทที่สื่อไปในทางลามกอนาจาร ที่ปัจจุบันสามารถซื้อหามาเล่นได้อย่างงายดายโดยไม่มีการกวดขันหรือควบคุมตัวอย่างของเกมส์ที่กำลังเริ่มก่อตัวของความเป็นอาชญากรทางความคิดและจินตนาการให้กับเยาวชนในทางลบที่สังคมยังไม่สามารถปิดกั้นให้สื่อเหล่านี้ออกไปได้ ยกตัวอย่าง เช่น เกมส์3feel ซึ่งเป็นเว็บไซต์เกมส์เกาหลีที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง อันเป็นหนึ่งในพิษภัยที่ถูกกล่าวถึงมากมายในอินเทอร์เน็ตนั่นคือ การเป็นสื่อลามก เพราะเกมส์ 3feel online เป็นเกมส์ที่สร้างขึ้นเพื่อเน้นเรื่องเพศสัมพันธ์ สำหรับเกมดังกล่าว เป็นเกมที่ผลิตขึ้นจากประเทศเกาหลี มีลักษณะเป็นเกมออนไลน์ที่ให้ผู้เล่นเลือกตัวละครว่าจะเป็นชายหรือหญิง และในขณะที่เล่นเกมพอไปเจอผู้เล่นที่เป็นเพศตรงกันข้าม ก็สามารถที่จะมีเซ็กกันได้ โดยผู้เล่นจะสามารถบังคับให้ตัวละครของเรามีเซ็กในท่าต่างๆ ได้ ส่วนสถานที่ในการมีเซ็กก็ยังมีให้เลือกด้วยเช่น ในห้องนอน ใน สวนสาธารณะ ในรถไฟใต้ดิน ขณะเดียวกันการเล่นเกมนี้ยังมีอุปกรณ์เสริม ที่มีลักษณะเป็นเครื่องช่วยตัวเองให้กับทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย โดยเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ในระหว่างที่เล่นเกมนี้อยู่ ซึ่งขณะนี้เกมดังกล่าวมีอยู่ 3 ภาษา คือภาษาเกาหลี ภาษาญี่ปุ่น และภาษาอังกฤษ เกมส์ดังกล่าวนี้ กลายเป็นกรณีศึกษาที่วิพากษ์วิจารณ์กันได้อีกครั้ง ถึงความเสื่อมทรามทางสังคมอันเป็นเหตุมาจากเทคโนโลยี ซึ่งร้านอินเตอร์เน็ตบางแห่ง นำเกมออนไลน์ของประเทศเกาหลีที่มีชื่อว่า "3feel ออนไลน์" ซึ่งไม่เหมาะสมกับเด็กมาให้บริการ แต่ยังไม่แพร่หลายเนื่องจากเป็นภาษาเกาหลี ทำให้ขั้นตอนการสมัครอาจจะยุ่งยากสำหรับคนไทย ซึ่งที่ประเทศเกาหลีเกมดังกล่าว จะถูกจัดเรตติ้งให้ผู้เล่นต้องมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ในส่วนการจัดการและป้องกันในประเทศไทย นายวัฒนา เซ่งไพเราะ โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า เกมดังกล่าวชัดเจนว่าเป็นเกมลามก อนาจาร จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมร้านที่เปิดให้บริการเกมนี้ เพราะถือเป็นการทำผิดกฎหมาย นายพงศ์ธร ชนะจิต เลขาธิการกลุ่มเครือข่ายร้านอินเตอร์เน็ตไทย กล่าวว่า ตามที่ พ.ร.บ.ภาพยนตร์ และวีดิทัศน์ พ.ศ.2551 จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 มิ.ย. 2551 นั้น จะส่งผลไปถึงการให้บริการของร้านอินเตอร์เน็ตด้วยกลุ่มเครือข่ายฯ ได้หารือกันเพื่อเสนอแนวทางต่อกระทรวงวัฒนธรรม เพื่อออกกฎกระทรวงในการจัดระเบียบร้านอินเตอร์เน็ต โดยได้ข้อสรุปคือ
1. ความปลอดภัยทางลักษณะกายภาพของร้าน ทำเลที่ตั้งปลอดภัย มองเห็นจากภายนอก กระจกไม่ติดฟิล์ม ห้ามขายบุหรี่ สารเสพติด และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และให้ร้านอินเตอร์เน็ตเป็นสถานที่ปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ และสารเสพติดทุกชนิด ตลอดจนห้ามใช้เป็นสถานที่เล่นการพนัน และดูสื่อลามก
2. การกำหนดเวลาเพื่อคุ้มครองเด็กและเยาวชน ให้ร้านอินเตอร์เน็ต เปิดบริการได้ 24 ชั่วโมง เช่นเดียวกันทั้งประเทศ แต่จะกำหนดให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี เข้าใช้บริการได้หลังเวลา 14.00 น. ของวันจันทร์-ศุกร์ ส่วนวันหยุดราชการหรือปิดภาคเรียน ให้เข้าใช้บริการได้หลัง 10.00 น. แต่ไม่เกิน 22.00 น.ของทุกวัน ไม่อนุญาตให้เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี เข้าใช้บริการหลัง 20.00 น.ของทุกวัน และไม่อนุญาตให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เล่นเกมคอมพิวเตอร์เกินกว่า 3 ชั่วโมงต่อวัน ทั้งนี้กลุ่มเครือข่ายฯ จะนำข้อเสนอดังกล่าว เสนอต่อกระทรวงวัฒนธรรมในวันที่ 13 พ.ค.นี้ ระหว่างนี้ เครือข่ายฯ จะเปิดรับฟังความคิดเกี่ยวกับแนวทางดังกล่าว ผ่านทางเว็บไซต์ www.internetcafe.in.th ด้วย อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการร้านอินเตอร์เน็ตควรจะมีสามัญสำนึก หากจะคิดนำเกมนี้มาไว้ในร้านควรคำนึงถึงเด็กที่เข้ามาใช้บริการด้วย อย่าคิดถึงแต่ค่าตอบแทนที่จะได้รับอย่างเดียวเพราะนอกจากไม่เกิดผลใดๆในทางสร้างสรรค์แล้วยังเป็นแหล่งบ่มเพาะให้เกิดอาชญากรทางความคิดด้วย นอกจากนี้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องควรให้ความสนใจและป้องกันอย่างจริงจังกล่าวคือ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ควรบล็อกเว็บไซต์ดังกล่าวโดยเร็ว และควรตรวจสอบให้รอบคอบว่าไม่มีการลักลอบนำเอาสิ่งเลวร้ายเหล่านี้มาฆ่าเยาวชนบริสุทธิ์ของตนเอง......


นางสาว ขวัญนภา นกแก้ว

รหัส 4819092

ตกเป็นดาราหนังโป้เพราะWebcam


เวบแคมหรือกล้องดิจิตอลที่มีการใช้งานที่ร่วมกับคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกที่หลายๆคนใช้ติดต่อกับเพื่อนหรือคนอื่นๆ ข้อดีของเจ้าเวบแคมนี้คือเราสามารถมองเห็นหน้าคู่สนทนาผ่านระบบ Cyber เพื่อเพิ่มอัทรสในการติดต่อสื่อสารให้มีมากขึ้น เพิ่มเติมจากเดิมโดยถือได้ว่าเป็นวิวัฒนาการที่ทันสมัย แต่หลายคนคงมองข้ามความปลอดภัยที่มีตัวการมาจากเจ้าเวบแคมนั่นเอง วัยรุ่นที่ชอบเล่นแชทผ่านกล้องออนไลน์หรือเวบแคม อาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพที่แอบดูขณะเปลี่ยนเสื้อผ้า ในห้องนอนหรือห้องส่วนตัว ผ่านกล้องออนไลน์ได้ วัยรุ่นที่ชอบเล่นเวบแคม ผ่านกล้องออนไลด์ที่สามารถสนทนาพูดคุยกันโดยเห็นภาพทั้งสองฝ่ายต้องระวังกลุ่มผู้เล่นบางคนหรือมิจฉาชีพ แอบใส่ข้อมูลให้เครื่องคอมพิวเตอร์รับคำสั่งทำงานโดยอัตโนมัติ ถึงแม้เครื่องจะปิดไว้ และหากเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีกล้องแวบแคมวางอยู่ในห้องส่วนตัวหรือห้องนอน ให้ระมัดระวัง เพราะว่าการทำกิจกรรม อิริยาบถส่วนตัวต่างๆ หรือเปลี่ยนเสื้อผ้า ในห้องดังกล่าวอาจถูกส่งผ่านระบบออนไลน์ ไปยังกลุ่มมิจฉาชีพที่เจาะระบบเข้ามาโดยที่เจ้าของเครื่องคอมพิวเตอร์ไม่สามารถรู้ว่ากล้องแวบแคมกำลังทำงานอยู่ ดังนั้นวิธีป้องกันหากไม่ถอดสายกล้องออกหรือกล้องติดอยู่ในตัวเครื่องควรใช้วิธีหมุนกล้องไปอยู่ในมุมอับหรือใช้ผ้าปิดหน้ากล้องไว้ เหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นแล้วในต่างประเทศ และอาจจะเกิดขึ้นกับผู้เล่นเวบแคมในประเทศไทยได้เช่นเดียวกัน นี่เป็นอันตรายเพียงหนึ่งลักษณะที่เกิดจากเวบแคม อีกตัวอย่างหนึ่งที่มีคนเคยประสบมาคือ การหลอกcaptureภาพของผู้อื่นโดยใช้กลอุบายหลอกลวง ว่าตนเองคือผู้หญิง(หาคู่สนทนาที่เป็นผู้หญิงด้วยกัน)เมื่อคุยไปได้สักครู่จนแน่ใจว่าคู่สนทนาเป็นผู้หญิงจึงชวนเปิดกล้อง(Webcam) แล้วบอกว่าตนเองเป็นเลสเบี้ยนชอบผู้หญิงหลังจากนั้นก็จะโชว์การถอดเสื้อผ้าและใช้คำพูดเย้ายวน ชวนให้เหยื่อเคลิ้มและชวนถอดเสื้อผ้าโดยหากคู่สนทนายอมทำตามก็อาจตกเป็นเหยื่อโดยทันที โดยที่เหยื่อไม่รู้ว่าภาพที่ตนเห็นอยู่นั้นเป็นเพียงคลิปวีดีโอ ที่ผู้ชักชวนอาจจะเป็นผู้ชายโรคจิตชอบเก็บภาพผู้หญิงเปลือย โดยโปรแกรมที่เค้าใช้คือ SplitCam แอบ capture ภาพแล้วก็เอาไปเผยแพร่ ขาย ประจาน หรืออะไรก็แล้วแต่ตามที่สาธารณะ ลองคิดให้ดีว่าหากมีใครเผลอไปเป็นเหยื่อโชว์ตามที่เรียกร้องจะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งครั้นจะไปฟ้องร้องก็ต้องเจอะเจอกับปัญหาด้านชื่อเสียงของตนเองยังไม่พออาจเกิดชื่อเสีย แก่วงศ์ตระกูล ดังนั้น การใช้เทคโนโลยีใดๆก็ตามก่อนใช้ต้องมีการพิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนแล้วจึงค่อยตัดสินใจทำการใดๆมิเช่นนั้นจะเป็นการชักนำภัยอันตรายเข้าสู่ตัวเอง สำหรับผู้ที่ใช้เจ้าเวบแคมนี้อยู่ทางที่ดีไม่ควร เลยที่จะเล่นเวบแคมกับคนที่ไม่รู้จักไม่ว่าหน้าตาของคู่สนทนาจะถูกใจท่านเพียงใดเพราะนั่นอาจเป็นเพียงคลิปวิดีโอที่พวกโรคจิตเตรียมไว้เพื่อหลอกเอาภาพเด็ดๆจากท่านไปก็ได้.....


นางสาว ขวัญนภา นกแก้ว

รหัส 4819092

สุดยอดบรอดแบนด์(Broadband)


บรอดแบนด์เป็นคำเรียกรวมของกลุ่มเทคโนโลยีของการเข้าใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง โดยความเร็วสูงสุดคือ 2 เมกะบิตต่อวินาที (Mbps) หรือเร็วมากกว่าการเชื่อมต่อผ่านทางสายโทรศัพท์แบบธรรมดาถึง 40 เท่าบรอดแบนด์คือการเชื่อมต่อความเร็วสูงที่เชื่อมต่ออยู่ตลอดเวลา ซึ่งหมายความว่า ผู้ใช้สามารถเข้าใช้อินเทอร์เน็ตได้ 24 ชั่วโมงต่อวัน สัปดาห์ละ 7 วันด้วยการชำระค่าธรรมเนียมอัตราคงที่ ก็จะสามารถใช้คุณสมบัติต่างๆ เช่น Instant e-mail, การรับส่งข้อความและท่องเว็บได้บรอดแบนด์กำลังเปลี่ยนวิธีการทำงานของบริษัทต่างๆ เนื่องจากบริการใหม่ๆ ที่สามารถนำมาใช้ได้ เช่น การประชุมทางวิดีโอ ตลอดจนการเพิ่มประสิทธิภาพการบริการของบริษัทต่างๆ ช่วยให้บริษัทเหล่านั้นสามารถรวบรวมข้อมูลจำนวนมากเข้าด้วยกัน เช่น ข้อมูลเสียง ข้อมูลทั่วไป และข้อมูลวิดีโอ แล้วส่งออกไปได้ทุกที่อย่างง่ายดาย เป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ รวมทั้งอุตสาหกรรมที่น่าสนใจใหม่ๆ นอกจากนี้ บรอดแบนด์ยังทำให้การทำงานจากบ้านเป็นเรื่องที่สะดวกยิ่งขึ้นอีกด้วย
วิธีการทำงานของบรอดแบนด์
บรอดแบนด์ใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า ADSL (Asymmetric Digital Subscriber Line) และต้องใช้โมเด็มภายนอกเสียบเข้ากับช่องเสียบ USB หรือช่องเสียบการ์ด Ethernet ของคอมพิวเตอร์ของคุณ การเลือกใช้สื่อสำหรับใช้ส่งข้อมูลแบบบรอดแบนด์ (เช่น สายเคเบิล) อาจทำให้จำเป็นต้องติดตั้งสายโทรศัพท์ใหม่ในที่อยู่อาศัยของคุณเพื่อที่จะสามารถให้บริการบรอดแบนด์แก่คุณได้ คุณอาจสามารถใช้หมายเลขโทรศัพท์เดิมของคุณต่อไปได้ แม้ในขณะที่การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณยังคงดำเนินอยู่ และคุณกำลังท่องเน็ตอยู่นั้น คุณยังคงสามารถโทรออกและรับสายได้หากคุณใช้สายโทรศัพท์แบบบรอดแบนด์ เนื่องจากคุณลักษณะของบรอดแบนด์จะมีความสามารถในการรับส่งข้อมูลได้มากมาย และเนื่องจากระบบดังกล่าวเป็นดิจิตอล คุณภาพที่ได้จึงดีเยี่ยม
การใช้บรอดแบนด์
• บรอดแบนด์ช่วยเพิ่มประสิทธิผลของพนักงานของคุณ
• บรอดแบนด์ช่วยให้คุณบริการลูกค้าได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
• บรอดแบนด์อาจสามารถใช้กับสายโทรศัพท์หรือบริการสายเคเบิลที่คุณมีอยู่ได้
• ช่วยให้คุณมั่นใจว่าคุณมีระบบการรักษาความปลอดภัยที่ถูกต้องใช้อยู่สำหรับการทำธุรกิจแบบออนไลน์
ปัจจุบันมีการแข่งขันค่อนข้างสูงในการยิงชิงตำแหน่งของการเป็นผู้นำในด้านไม่เว้นแม้แต่ทางด้านการบริการทางเทคโนยีดังกล่าว การสำรวจพบ ประเทศญี่ปุ่นคือประเทศที่มีเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงหรือบรอดแบนด์ประสิทธิภาพเยี่ยมยอดที่สุดในโลก ชนะสวีเดน และเนเธอร์แลนด์ ซึ่งทำสถิติเหนือกว่าประเทศใดๆในยุโรป ทั้งที่สองประเทศนี้เพิ่งจะลงทุนสร้างโครงข่ายไฟเบอร์ออปติคความเร็วสูงและอัปเกรดเครือข่ายเคเบิลทีวีไป การสำรวจครั้งนี้ดำเนินการโดยมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดภายใต้การสนับสนุนของผู้ผลิตเครือข่ายอย่างซิสโกซิสเต็มส์ (CiscoSystems) ทำการสำรวจโดยเก็บวัดค่าจากเว็บไซต์ Speedtest.net เป็นหลัก ซึ่งผู้ใช้ทั่วไปสามารถทดสอบความเร็วอินเทอร์เน็ตของตัวเองได้จากเว็บไซต์ดังกล่าว ผู้สำรวจนำผลการทดสอบกว่า 8 ล้านครั้งในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ไปประมวลเพื่อคำนวณเป็นคะแนนคุณภาพอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ทั้งค่าความเร็วในการอัปโหลด ดาวน์โหลด และระยะเวลาที่แพคเก็จข้อมูลใช้ในการเคลื่อนที่จากต้นทางไปปลายทาง โดยการพิจารณาคะแนนเหล่านี้พบว่า หลายประเทศอย่างอังกฤษ สเปน ออสเตรเลีย และอิตาลี นั้นยังมีค่าเฉลี่ยคะแนนในระดับค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่เหมาะกับการใช้แอปพลิเคชันคุณภาพสูงอย่างการชมวีดีโอออนดีมานด์ การสนทนาด้วยวีดีโอ และการแชร์ไฟล์ Fernando Gil de Bernabe ผู้จัดการทั่วไปของซิสโกแสดงความประหลาดใจเมื่อประเทศเล็กๆอย่างลัทเวีย (Latvia) สามารถครองแชมป์ประเทศที่มีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงประสิทธิภาพเยี่ยมอันดับ 4 ของโลก ซึ่งลัทเวียก็ยังมีจำนวนผู้ใช้งานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตไม่กี่ครัวเรือนเท่านั้น เช่นเดียวกับประเทศสโลวาเนียและลิธัวเนียซึ่งติดอันดับ 1 ใน 10 ด้วยสำหรับประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกานั้นอยู่ในอันดับที่ 16 รัสเซียอยู่อันดับที่ 17 นำหน้าบัลแกเรียแต่ต่ำกว่าฟินแลนด์ การจัดลำดับในครั้งนี้ไม่ได้คำนึงถึงความแพร่หลายในการใช้บรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต และระดับราคาในการให้บริการ โดยซิสโก ในฐานะผู้สนับสนุนการสำรวจจะได้ประโยชน์จากสำรวจครั้งนี้เต็มที่ เพราะซิสโกนั้นจำหน่ายอุปกรณ์เครือข่ายอินเทอร์เน็ตอยู่แล้ว การสำรวจครั้งนี้จะทำให้ซิสโกรู้ว่าตลาดใดจะต้องมีการอัปเกรดระบบเพื่อให้รองรับความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตของประชาชนในชาติต่อไป
ต่อไปนี้คือ 10 อันดับประเทศที่มีบรอดแบนด์ประสิทธิภาพเยี่ยมยอดที่สุดในโลก 1.ญี่ปุ่น 2.สวีเดน 3.เนเธอร์แลนด์ 4.ลัทเวีย 5.เกาหลี 6.สวิตเซอร์แลนด์ 7.ลิธัวเนีย 8.เดนมาร์ก 9.เยอรมนี 10.สโลวาเนีย
ประเทศไทยยังไม่ติดอยู่ในอันดับที่น่าพึงพอใจนอกจากไม่ติดอันดับแล้ว หลายๆคงก็ยังประสบปัญหาเดียวกันคือเสียค่าบริการในการใช้อินเตอร์เน็ตในราคาสูงแต่คุณภาพไม่เหมือนกับที่โฆษณาซึ่งหากผู้ประกอบการยังไม่สามารถให้บริการได้เหมือนที่ตนอ้างก็ไม่สมควรที่จะทำการโฆษณาเพราะนอกจากจะทำให้ลูกค้าเสียความรู้สึกแล้วไม่เป็นการดีที่อาจจะโดนกล่าวหาจากนานาชาติที่ได้มีโอกาสรับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับการบริการดังกล่าวที่ไม่ยุติธรรมว่าเป็นประเทศที่มีแต่คนชอบหลอกลวง.....
นางสาว ขวัญนภา นกแก้ว
รหัส 4819092

นักตกปลาผู้ชั่วร้าย บนโลกไซเบอร์


กลโกงของผู้ร้ายเกิดได้ทุกที่ทั้งบนโลกแห่งความจริงและโลกเสมือน ทางแก้ไขคือต้องรู้เท่าทันกลโกงเหล่านี้ก่อนจะกลายเป็นปลาเคราะห์ร้ายที่หลงกินเบ็ดที่วางเอาไว้ การวางกับดักเพื่อหลอกผู้คนของมิจฉาชีพซึ่งเปรียบเสมือนการตกปลาด้วยเหยื่อล่อบนอินเทอร์เน็ต หรือ ใช้ศัพท์เฉพาะว่า Phishing (อ่านว่าฟิชชิ่งซึ่งพ้องเสียงกับFishingที่แปลว่าการตกปลา) เป็นเทคนิคล่อลวงที่ใช้กันหมู่ 18 มงกุฎไฮเทคมาเป็นเวลานานหลายปีแล้วแต่ปลาทั้งหลายก็ยังหลงกลครั้งแล้วครั้งเล่ากลายเป็นนิทานที่เล่ากันมาไม่รู้จบ ฟิชชิ่งเป็นอาชญากรรมในยุคไฮเทคเทคนิคนี้นักตกปลาเจ้าเล่ห์หรือพวกมิจฉาชีพที่หากินบนอินเทอร์เน็ตจะส่งอีเมลปลอมๆออกไปเพื่อล้วงความลับเอาข้อมูลสำคัญจากผู้ที่ได้รับอีเมล เช่นเลขที่บัญชี รหัสผ่านและข้อมูลสำคัญอื่นๆ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการช่อโกง นอกเหนือจากการใช้อีเมลแล้วยังมีการปลอมเว็บไซต์ หรือการปล่อยมัวแวร์(ซอฟต์แวประสงค์ร้าย) เพื่อดักจับการกดปุ่มคีย์บอร์ดเทื้อมีการป้อนข้อมูล รหัสผ่านหรือ อาจเป็นการใช้เทคนิคหลายๆอย่างผสมกัน แต่ที่ประสบความสำเร็จ และเป็นที่นิยมมากที่สุดคืออีเมล ซึ่งมีสถิติความสำเร็จประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์โดยอาศัยจุดอ่อนของSMTP ซึ่งทำให้ใครก็สามารถปลอมแปลงอีเมลบุคคลอื่นได้และยังสามารถใช้ฟังค์ชั่นบนโปรโตคอลเพื่อกำหนดในการตอบกลับของอีเมลตัวอย่างที่เห็นกันมากก็คือมักจะเป็นการปลอมอีเมลจากธนาคารหรือบัตรเครดิต โดยเนื้อหาในอีเมลอาจแกล้งอาจแกล้งหลอกเหยื่อว่าเนื้อหาในบัญชีมีปัญหา ขอให้เข้าไปในเว็บไซต์ ของธนาคารตามลิงค์ที่อยู่ในอีเมลซึ่งแน่นอนว่าลิ้งนั้นก็จะพาไปยังเว็บไซต์โจรไม่ใช่เว็บไซต์จริง แต่ดูเหมือนจริงมากๆจนแยกไม่ออกถ้าไม่สังเกตให้ดี ไม่ว่าจะเป็นโลโก้ รูปลักษณ์ของเว็บไซด์ ก็เป็นแบบที่เราเคยเห็นและคุ้นเคยแม้แต่ชื่อของเว็บไซต์ ก็คล้ายของจริงมากโดยอาจใช้ตัวอักษรผิดเพี้ยนไปเพียงเล็กน้อยยกตัวอย่าง เช่นถ้าเว็บไซด์จริงเป็นwww.mywebsite.com ก็อาจกลายเป็นwww.mvwebside.com จากนั้นเว็บไซต์ก็จะหลอกล่อให้เรากรอกข้อมูล เพื่อใช้ประโยชน์โดยถ้าเป็นการล่อหลอกเกี่ยวกับบัญชีธนาคาร ก็อาจเอาข้อมูลที่ได้มาแอบเข้าบัญชีของเราในภายหลัง เพื่อแอบโอนเงินหรือทำรายการแปลกปลอมต่างๆ ความพยายามของธุรกิจในการต้านฟิชชิ่งของธุรกิจต่างๆ พยายามใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อสร้างความสะดวกให้กับลูกค้า ก็ยังมีมิจฉาชีพที่หาช่องทางเพื่อผลประโยชน์อันมิชอบ หลายคนเข็ดขยาดถึงกับประกาศไม่ขอข้องเกี่ยวกับธุรกรรมใดๆบนอินเทอร์เน็ต ยอมเป็นเต่าล้านปีดีกว่าตกเป็นปลาเคราะห์ร้ายธุรกิจที่หวังจะอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าด้วยบริการอินเตอร์เน็ตจึงต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อให้ลูกค้ามีความมั่นใจกับอินเตอร์เน็ตมากขึ้น หลายๆเว็บไซด์ธุรกิจจึงพยายามให้ความรู้เกี่ยวกับฟิชชิ่งเพื่อเตือนภัยไม่ให้มีการหลงเชื่อกลโกง
การป้องกันตนเองจากฟิชชิ่ง การป้องกันตนเองจากกลอุบายใดๆดูเหมือนว่าจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงตนให้เป็นคนช่างสังเกต ช่างสงสัย และระแวดระวัง ซึ่งคงเป็นไปได้ยากสำหรับหลายๆคนที่เมื่อถึงคราวที่ประสบกับเหตุการณ์จริงก็คงจะลืม และถูกชักจูงให้คล้อยตามอยู่เสมอ เหมือนที่อุบายตกทองที่ยังสามารถใช้ได้ผลอยู่จนทุกวันนี้ อย่างไรก็ตามเทคนิคฟิชชิ่งนั้นมีข้อสงสัยที่ควรต้องระแวดระวังต่อไปนี้
-ธนาคาร หรือสถาบันการเงินมักจะไม่ขอข้อมูลสำคัญของลูกค้าผ่านอีเมล เช่นชื่อบัญชี รหัสผ่าน วันเกิด หมายเลขบัตรเครดิต ฯลฯ ซึ่งอีเมลฟิชชิ่งมักจะมีข้อความบอกว่าอีเมลนี้เป็นกรณีเร่งด่วนต้องรีบติดต่อกลับ หากพิจารณาจ้อเท็จจริงแล้วการแจ้งเกี่ยวกับกรณีเร่งด่วนไม่ควรทำผ่านอีเมลอยู่แล้ว ทางที่ดีถ้าสงสัยว่าเป็นฟิชชิ่งให้โทรกลับไปถามที่ธนาคารด้วยเบอร์ที่ทราบอยู่แล้วไม่ใช่เบอร์ที่บอกมากับอีเมลนั้น
-อย่าคลิกลิงค์ที่มากับอีเมลพยายามเข้าจากเว็บไซต์ที่เข้าอยู่เป็นประจำ
-ในกรรีที่ได้รับอีเมล์ที่น่าสงสัยว่าจะเป็นฟิชชิ่งให้แจ้งองค์กรที่ถูกอ้างชื่อเพื่อให้องค์กรที่ถูกแอบอ้างกระจายข่าวออกไปเป็นการลดโอกาสที่คนอื่นๆอาจถูกหลอก
-ตรวจสอบความเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารหรือบัตรเครดิตอย่างสม่ำเสมอเพื่อตรวจสอบว่ามีรายการผิดปกติหรือไม่
เทคนิคฟิชชิ่ง และวิธีการป้องกันยังมีอีกมากมาย ความสำเร็จของเทคนิคฟิชชิ่งโดยส่วนใหญ่เกิดจากความตระหนักในเรื่องความปลอกภัยของข้อมูล และการเห็นความสำคัญของรหัสผ่านของตัวเราเองดังนั้นวิธีการป้องกันที่ดีที่สุดคงไม่ใช่การสรรหาเครื่องมือใดๆมาช่วยแต่เป็นความระมัดระวังความใคร่ครวญ และการพิจารณาเหตุผลของผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์เป็นสำคัญ.......


นางสาว ขวัญนภา นกแก้ว

รหัส 4819092

เทคโนโลยีคือความสะดวก หรือ ต้นเหตุของความห่างไกลกันแน่?


จากการสื่อสารระหว่างกันในแต่ละยุคที่ผ่านๆมาจะเห็นว่ามีการสื่อสารมากมายหลายรูปแบบ เช่นในยุคเริ่มแรกการสื่อสารเป็นรูปแบบของการสื่อสารระหว่างกันโดยจดหมายและการส่งโทรเลข ต่อมามีการพัฒนาขึ้นเป็นการใช้โทรศัพท์สาธารณะเริ่มเป็นการสื่อสารที่ถือได้ว่ามีความก้าวหน้ามากขึ้นหากเทียบกับการอ่านเพียงตัวหนังสือและระยะเวลาการรอคอยที่ต้องรอรับสาร การโทรศัพท์ถือได้ว่าเป็นวิวัฒนาการใหม่ที่ทำให้ผู้รับและผู้สงสารได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น แม้ว่าจะเป็นการเพียงการฟังเสียงและพูดโต้ตอบกันโดยไม่ได้เห็นหน้าค่าตาคู่สนทนาก็ตาม ซึ่งในปัจจุบันการสื่อสารในรูปแบบนี้ก็ยังเป็นรูปแบบที่มีผู้คนนิยมใช้มากที่สุด แต่มีสิ่งที่พัฒนาเพิ่มขึ้นจากเดิมคือเปลี่ยนจากโทรศัพท์สาธารณะมาเป็นการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่มีรูปแบบและลูกเล่นมากมายที่ถูกพัฒนาขึ้นตามยุคตามสมัย ปัจจุบันระบบอินเตอร์เน็ตเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นและเริ่มแพร่หลาย หลายๆคนรู้จักการสนทนาผ่านโปรแกรมต่างๆ เช่นในยุคหนึ่งเมื่อประมาณ7-8ปีที่ผ่านมาโปรแกรมเพิท (Pirch) และโปรแกรม ICQ เป็นโปรแกรมที่ได้รับความนิยมแพร่หลายโปรแกรมนี้สามารถสนทนากันโดยผ่านการพิมพ์โต้ตอบกันระหว่างคู่สนทนาได้ทันทีเป็นการสนทนากันโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย อีกทั้งผู้ใช้ยังสามารถเข้าร่วมพูดคุยกับสมาชิกห้องที่ตั้งขึ้นตามความสนใจต่างๆได้ตามใจชอบทั้งยังสามารถเลือกทำความรู้จักกับคนอื่นๆได้สามรถพูดคุยกับหลายๆคนได้ในเวลาเดียวกัน ในเวลาต่อมาได้เริ่มมีการพัฒนารูปแบบของการสนทนาผ่านเครือข่ายในรูปแบบที่น่าสนใจมากขึ้นดังจะรู้จักกันในชื่อของโปรแกรมMSN ข้อแตกต่างที่มีเพิ่มขึ้นคือเราสามารถที่จะใส่รูปหรือแสดงอารมณ์ผ่านตัวการ์ตูนต่างๆอีกทั้งยังสามารถใช้โปรแกรมนี้พูดคุยโดยได้ยินเสียงพร้อมกับเห็นหน้าคู่สนทนาได้ด้วย และสามารถที่จะเลือกคุยกับเฉพาะบางบุคคลที่เราต้องการสนทนาด้วยได้ ปัจจุบันมีโปรแกรมในการสนทนาดังกล่าวหลากหลายรูปแบบทั่วโลกให้เลือกใช้กับตามความชอบและตามความนิยมขึ้นอยู่กับการเลือกใช้งานและความพึงพอใจของผู้ใช้ ส่วนการสื่อสารอีกรูปแบบที่มีการพึ่งพาเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เป็นที่นิยมกันมากอีกรูปแบบหนึ่งคือไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-mail)เป็นการส่งจดหมายผ่านเครือข่ายที่ไร้พรหมแดนภายในเวลาอันรวดเร็วผู้ใช้บริการไม่ต้องเสียเวลาในการรอรับจดหมายที่ยาวนานอีกทั้งยังสามารถส่งไปยังต่างประเทศภายในเวลาอันรวดเร็วอีกด้วยทำให้สะดวกต่อทั้งผู้รับและผู้ส่ง แต่กระนั้นไม่ใช่ว่าการที่เราสามารถเลือกช่องทางการสนทนาผ่านโปรแกรมนี้จะดีเสมอไปเพราะความก้าวหน้าที่เกิดขึ้นนี้ทำให้เราสามารถพบปะกับบุคคลอื่นที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อน ที่สำคัญโลกของการสื่อสารดังกล่าวเป็นเสมือนโลกของการหลอกลวงที่เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าผู้ที่เราสนทนาด้วยนั้นมีความประสงค์ดีกับเราหรือไม่ ถึงแม้ว่าจะมีการยอมรับว่าเทคโนโลยีทำให้โลกของเราแคบลงได้จริงจากที่เคยใช้เวลาในการสื่อสารระหว่างกันยาวนาน กลับกลายเป็นรวดเร็วมาก แต่กระนั้นเองเราก็สามารถกล่าวได้ว่าเทคโนโลยีก็เปรียบเสมือนเครื่องมือที่สามารถทำลายคุณค่าของวัตถุทางจิตในตัวคนให้มีน้อยลงไปได้ในเวลาเดียวกันด้วย กล่าวคือ คุณค่าของสารที่รับผ่านกระบวนการที่ถูกพัฒนาขึ้นจากเทคโนโลยีที่ทำให้การสื่อสารนั้นที่มองว่าแสนจะง่ายดาย เมื่อเทียบกับการบรรจงสร้างด้วยสมองและสองมือที่อาจมองว่ายากเย็นแต่เมื่อมองแล้วสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจและตวามใส่ใจของผู้ให้มากกว่า ยกตัวอย่างเช่น ในสมัยหนึ่งการอวยพรวันเกิดอาจจะผ่านคำพูดหรือการมอบการ์ดอวยพรที่ผู้ให้ลงมือเขียนด้วยลายมือและมอบแก้ผู้รับเอง ซึ่งสามารถแสดงถึงความตั้งใจของผู้ให้และสร้างความประทับใจแก่ผู้รับ แต่ปัจจุบันการกระทำเช่นนั้นลดน้อยลงเนื่องจากผู้คนกลุ่มหนึ่งที่ใช้ความสะดวกโดยมีตัวกลางคือเทคโนโลยีเป็นแหล่งบอกผ่านอีกที การกระทำผ่านเทคโนโลยีดังกล่าวก็อาจสร้างความประทับใจให้ผู้รับได้เช่นกันแต่อาจจะไม่เท่ากับการลงมือทำด้วยตนเองอันแสดงถึงความตั้งใจจริงเหมือนแต่ก่อน รายละเอียดเพียงเล็กน้อยเหล่านี้อาจเป็นสิ่งที่หลายคนมองข้ามไป แต่รายละเอียดเหล่านี้เองเป็นเสมือนเครื่องมือในการแสดงความจริงใจได้ ซึ่งถึงแม้ว่าอาจจะดูโบราณสำหรับหลายๆคน แต่ย่อมแน่นอนอยู่แล้วว่ามีคุณค่าทางจิตใจมากกว่าการพัฒนาตามยุคที่เทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อนความห่างไกลของระบบความสัมพันธ์ที่สวยงามของมนุษย์ให้ไกลห่างกันออกไป เรื่อยเรื่อย เรื่อยเรื่อย.........


นางสาว ขวัญนภา นกแก้ว
(4819092)

มาฝึกฟัง-อ่านข่าวภาษาอังกฤษง่ายๆจากเว็บไวด์กันเถอะ


ยุคสมัยที่เทคโนโลยีการสื่อสารไร้พรมแดน ข่าวหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ จุดใดจุดหนึ่งบนโลกใบนี้สามารถแพร่กระจายไปสู่ทุกมุมโลกภายในไม่กี่วินาที โดยเฉพาะโลกของ Internet อย่างที่เพื่อนๆคุ้นเคยดีในปัจจุบัน ดังนั้นถ้าไม่อยากเป็นคนตกยุค ก็จำเป็นต้องสนใจใฝ่หาความรู้เพิ่มเติอยู่มเสมอ และยิ่งถ้าเราสามารถพัฒนาความรู้และทักษะภาษาอังกฤษของเราไปพร้อมๆกับการรับรุ้ข่าวสารความเป็นไปของโลกใบนี้ เพื่อนๆว่ามันคงจะดีไม่น้อยเลยใช่ไหมคะ เพราะภาษาอังกฤษเปรียนเหมือนเป็นเครื่องมือที่ทำให้เราสามารถเรียนรู้โลกอันกว้างใหญ่ นอกเหนือจากประเทศไทยของเราได้ วันนี้ฝันของนักเรียนตัวยงเป็นจริงแล้ว เพียงคลิกเข้าไปที่ http://www.voanews.com (เว็บไซด์นี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามวันเวลา)
voanews คืออะไร? VOA ย่อมาจาก Voice of America หรือในภาษาไทยเรียกว่า “เสียงอเมริกา” เป็นสถานีวิทยุที่ถูกสร้างขึ้นในยุคสงครามเย็น ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีการเผชิญหน้ากันระหว่างโลกเสรีนิยมกับโลดคอมมิวนิสต์ VOA ก็คือกระบอกเสียงสำคัญในการเผยแพร่ข่าวสารหลักของโลกเสรีในประเทศฝ่ายพันธมิตร (ฝ่ายของประเทศอเมริกา) ถือว่าสงครามสื่อของอุมการณ์ที่ทรงพลังอย่างยิ่งในช่วงเวลานั้น
ปัจจุบัน VOA เปลี่ยนรูปร่างมาอยู่ในรูปของ Internet ซึ่งภายในเว็บไซด์นั้นมีให้เลือกถึง 52 ภาษา (VOA ภาคภาษาไทยก็มีนะ) มีหน้าที่เหมือนสถานีวิทยุกระจายเสียงที่นำเสนอเหตุการณ์ปัจจุบันทั่วโลก รายงานข่าวเศรษฐกิจ เทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม การศึกษาและสังคม เรื่องสตรี ข่าวบันเทิง และวัฒนธรรมอเมริกา เพื่อแลกเปลี่ยนข่าวสารและวัฒนธรรมไปทั่วโลก และที่โดดเด่นไปกว่านั้นภายในเว็บไซด์ VOA ยังมีบทความที่เตรียมไว้สำหรับผู้ที่ต้องการฝึกฟังอีกด้วย จากที่ฟังข่าวไม่ทันจริงๆไม่ทันซักที ที่นี่จะเปิดโอกาสให้เราได้ฝึกฟังภาษาอังกฤษฉบับพิเศษ อ่านช้าๆฟังชัดๆให้ผู้ใฝ่หาความรู้อย่างเราเข้ามาฝึกกัน แถมนื้อหาให้อ่านอีกต่างหาก ช่างรู้ใจเสียจริงๆ ส่วนวิธีการเข้าไปใช้งานก็ตามมาทางนี้เลยคะ
ขั้นที่ 1 เพียงเข้าไปที่ http://www.voanews.com เพื่อนๆจะพบคำว่า VOA English อยู่ด้านบนสุดของจอ ให้คลิกเลือกเพื่อเข้าสู่หน้าฝึกภาษาอังกฤษ
ขั้นที่ 2 เมื่อเข้าไปที่หน้า VOA English แล้วให้เลื่อนไปที่มุมด้านล่างซ้ายมือ จะพบรูปหนังสือซึ่งเขียนหัวข้อว่า Learning English “Articles in Special English” ให้คลิกเข้าไปได้เลยคะ
ขั้นที่ 3 จะปรากฏข่าวและบทความมากมายเอาไว้ให้พวกเราได้เลือกฟังตามความสนใจ
ขั้นที่ 4 จะปรากฏเนื้อหาของบทความนั้นๆขึ้นมาเพื่อให้เราได้อ่านและฟังได้ด้วย โดยเพื่อนๆสามารถคลิกที่รูปลำโพงสีน้ำเงิน จะเลือกเป็น Audio, MP3 หรือ Real Audio ก็ได้ เพื่อดาวน์โหลดเสียงประกอบบทความ
เสียงจากบทความจะพูดแบบช้าๆ เพื่อให้พวกเราได้ฝึกอ่านและฟังเสียงจากเจ้าของภาษาได้ง่ายและรู้เรื่องขึ้น ซึ่งคิดว่าเพื่อนๆคงไดประโยชน์อย่างมากจาก VOA แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าในส่วนของ VOA ภาคภาษาไทยซึ่งถูกก่อตั้งมายาวนานกว่าค่อนศตวรรษพร้อมกับ VOA ภาษาอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง ได้ถูกปิดตัวลงในสิ้นปี พ.ศ. 2550 อย่างไรก็ตาม เราก็ยังสามารถเข้ามาฝึกทักษะการฟัง-อ่านได้ที่ VOA ภาคภาษาอังกฤษคะ
นางสาวดวงใจ ดอกจันทร์
รหัส 4819104

Future e-book


ปัจจุบัน อินเตอร์เน็ตได้กลายปัจจัยที่ 6 เป็นสิ่งที่สำคัญต่อชีวิตประจำวัน ทั้ง Hardware และ Software ต่างมีการสังเกตได้จากการที่ทั้งหนังสือ นิตยสารทั้งหัวไทยและหัวนอกขายดิบขายดี เนื้อหาก็มีความหลากหลาย ทั้งเรื่องเบา-หนัก เรื่องสาระน้อย-สาระมาก ยิ่งเดี๋ยวนี้มีหนังสือรูปแบบใหม่ซึ่งมาในรูปไฟล์ดิจิตอลที่เราเรียกกันว่า E-book (Electronic book) ก็ยิ่งทำให้การเข้าถึงโลกของหนังสือนั้นได้ง่ายและสะดวกสบายยิ่งขึ้นไปอีก
E-book หรือหนังสือที่สามารถซื้อหาและดาวน์โหลดมาอ่านได้ผ่านอินเตอร์เน็ต ได้รับการบุกเบิกในต่างประเทศมาหลายปีแล้ว และสำหนับในประเทศไทยตลาดหนังสือดิจิตอลก็ค่อยๆกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆซึ่งในทางหนึ่งก็เป็นนิมิตหมายอันดีสำหรับบรรดาผู้ปกครองที่เป็นกังวลว่า คอมพิวเตอร์หรืออินเตอร์เน็ตจะทำงานโอกาสและเวลาในการอ่านหนังสือของเด็กๆ เพราะมันได้กลายเป็นประตูบานสำคัญ ในการพาเด็กๆเข้าสู่โลกแห่งตัวหนังสือ ความรู้ความคิดอันหลากหลายกว้างไกล ไม่จำกัดอยู่แต่เพียงบนแผงหนังสือเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม แม้แต่ในต่างประเทศที่การคิดค้นและพัฒนาซอฟท์แวร์ในการสร้างและส่งผ่านหนังสือดิจิตอลทางอินเตอร์เน็ต (รวมทั้งการแก้ปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ ก้าวไปไกลแล้ว ผู้จัดจำหน่าย E-book ยี่ห้อต่างๆ ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่ตั้งเป้าเอาดิบดีอยู่นั่นเอง ผิดพลาดกับตลาดเพลงแบบดิจิตอลในรูปแบบ MP3 ที่มาแรงแซงเพลงในรูปแบบเทปและซีดี จนหลายค่ายต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองมาเข้ากับระบบดิจิตอลอย่างเร่งด่วน ทำให้ผู้บริโภคอย่างเราๆก็ยังลังเลอยู่ไม่น้อยที่จะเลือกซื้อหนังสือดิจิตอล ทั้งที่เวลาไปยืนอยู่หน้าแผงหนังสือเราสามารถตัดสินใจซื้อหนังสือเล่มหนึ่งที่เราชอบได้อย่างรวดเร็ว แม้ราคาจะแพงกว่าในรูปแบบดิจิตอลพอสมควรก็ตาม คำถามที่เกิดขึ้นก็คือ ปัจจัยอะไรกันแน่ที่สกัดกั้นความสำเร็จของ E-book คำตอบของคำถามนี้ อาจจะหาได้จากการชั่งข้อดี-ข้อเสียของมัน เมื่อเปรียบเทียบกับหนังสือแบบเล่มก็ได้
ตัวแทนคนรักหนังสือรูปแบบเดิม แฟรงคลิน พอล (Franklin Paul) ผู้ที่มีอาชีพเป็นช่างภาพและเป็นนักเขียนสารคดีท่องเที่ยวได้ให้ความเห็นไว้ตั้งแต่สองสามปีก่อนว่า เขาไม่เห็นด้วยเลยกับใครที่เชื่อว่า E-book จะมาตีตลาดหนังสือทั่วไปได้ เนื่องจาก “There is just something about reading long documents on paper which cannot be replicated” แปลได้ความว่า “มันมีอะไรบางอย่างเกี่ยวกับการอ่านหนังสือเรื่องยาวๆบนหน้ากระดาษ ซึ่งไม่อาจทดแทนได้ด้วยการอ่านจากหน้าจอ” บางอย่างที่ว่านั้น หลายคนอาจเดาว่าเป็นการที่เราสามารถจะ “พลิก” และ “คั่น” หน้ากระดาษด้วยมือของเราเวลาที่อ่านหนังสือ ในขณะที่เราไม่สามารถทำเช่นนั้นได้บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้ นอกจากนี้การนั่งจ้องหน้าคอมพิวเตอร์ที่แสนจะสว่างและทำลายสายตาก็ไม่น่าพิสมัยนัก สำหรับคนที่สุขภาพตาไม่แข็งแรง
กระนั้นก็ตาม ก็ยังมีเสียงบางคนอ้างถึงข้อดีของ E-book ที่ปฏิเสธไม่ได้นั่นก็คือ ความกะทัดรัด ง่ายต่อการเก็บรักษา และพกพานั่นเอง “As with digital music, multiple books-say, Shakesreare’s collected work- - can be stored on memory card the size of stick of gum, making them popular with travelers, students and professionals.” ก็คือ เหมือนกับดนตรีในรูปแบบดิจิตอลหนังสือจำนวนมากมายอย่างเช่น “รวมงานเขียนทุกชิ้นของเชคสเปียร์” สามารถรวมกันอยู่ภายในเมมโมรีการ์ดขนาดเท่ากับหมากฝรั่งชิ้นเดียวเท่านั้น สิ่งนี้ช่วยให้หนังสือดังกล่าวเป็นที่ฮอตฮิตในหมู่นักท่องเที่ยว นักเรียน และผู้เชี่ยวชาญทั้งหลาย
นอกจากนี้ยังมีข้อเด่น-ข้อด้อยอื่นๆ ของ E-book เมื่อเปรียบเทียบกับหนังสือที่เป็นรูปเล่มอีกหลายข้อ ลองไปดูกันคะ เผื่อว่าจะช่วยในการตัดสินใจเลือกซื้อหนังสือให้เหมาะสมกับความต้องการ และพฤติกรรมการอ่านของทุกคนได้บ้างคะ

ข้อดี
1. อ่านในที่มืดได้
2. จัดหมวดหมู่ง่าย หาง่าย
3. ช่องทางเข้าถึงหนังสือกว้างขว้างมาก หลากหลายประเภท ตอบความต้องการของแต่ละบุคคลได้
4. ส่งต่อ, เผยแพร่ง่าย สะดวก ประหยัด
5. ดูตัวเอย่าง (บางส่วนหรือทั้งหมด) ได้ก่อนตัดสินใจซื้อ
ข้อเสีย
1. ต้องใช้ไฟ แบตเตอรี่
2. ต้องมีความรู้เรื่องเทคโนโลยีพอสมควร
3. เข้าถึงง่ายเกินไป จนควบคุมดูแลยาก และอาจส่งผลเสียหากขาดวิจารณญาณ
4. ควบคุมปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ได้ยาก
5. ไม่ได้เห็นรูปร่างหน้าตา และสัมผัสรูปเล่ม

อย่างที่เห็นนะคะว่า E-book มีข้อดีอยู่หลายอย่าง แต่ก็มีข้อเสียหลายประการเช่นเดียวกัน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ทำให้หนังสือเป็นเล่มยังคงความนิยมตลอดกาล ซึ่งแม้แต่ E-book ที่ทั้งราคาถูกและสะดวกสบายก็ไม่สามารถสั่นคลอนบัลลังก์ได้ ก็คือเสน่ห์แห่ง “สัมผัส” ของหนังสือ ซึ่งให้ความรู้สึกถึงความเป็นเจ้าของและสร้างพื้นที่ส่วนตัวบางอย่างที่หน้าจอมอนิเตอร์ไม่อาจสร้างได้ นอกจากนี้มันยังมีมิติทางชนชั้นและทางวัฒนธรรม รวมไปถึงเป็นตัวบ่งชี้ความเป็นไปของยุคสมัย หนังสือยิ่งเก่าเก็บ ยับเยิน ยิ่งบ่งบอกถึงคุณค่า รวมถึงความผูกพันที่เจ้าของและหนังสือมีให้แก่กัน หนังสือที่มีน้อยหรือถูกห้ามในอดีตก็บ่งบอกบริบททางสังคมบางอย่างที่เนื้อหาของมัน (ที่เราสามารถหาอ่านได้จากอินเตอร์เน็ต) ไม่สามารถถ่ายทอดออกมาได้อย่างครบถ้วน
อย่างไรก็ตามเราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า ทั้งหนังสือทั่วไปและหนังสือดิจิตอล ก็เกื้อหนุนกันอยู่แล้ว หนังสือบางเล่มในปัจจุบันนี้ ก็ก่อสร้างตัวมาจากอินเตอร์เน็ตถูกอ่าน เผยแพร่ วิพากษ์วิจารณ์ จนกระทั่งเป็นที่นิยม และได้รับการพิมพ์ออกมาให้เป็นรูปเล่มให้คนรักหนังสือได้ซื้อเก็บในทางกลับกัน หนังสือหลายเล่มเปลี่ยนสถานะกลายเป็นหนังสือคลาสสิค หายาก และผู้คนก็อาจจะไม่มีโอกาสได้อ่าน หากมันไม่ได้รับการแปลงไปอยู่ในรูปของไฟล์ดิจิตอล ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่าหนังสือทั้งสองชนิดแท้จริงแล้วทำงานงานร่วมกันเป็นกระบวนการโดยการสร้างโอกาส และอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้บริโภคนั่นเองคะ

นางสาวดวงใจ ดอกจันทร์

รหัส4819104